iPhone อุปกรณ์มือถือเปลี่ยนโลกที่ยังเดินหน้าพัฒนาไม่สิ้นสุด
สำหรับคนยุคใหม่การใช้งานสมาร์ตโฟนอย่าง “iPhone” ถือเป็นเรื่องปกติที่คุ้นตา มองไปทางไหนก็พบเจออยู่ตลอด การพาย้อนกลับไปทำความรู้จักกับอุปกรณ์เปลี่ยนโลกตัวนี้ให้ละเอียดมากขึ้นจะทำให้คุณมองเห็นถึงความพยายามพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดจนทำให้ชีวิตเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าคุณอยู่จุดไหนของโลกก็สามารถสื่อสาร ทำความรู้จัก จนถึงกับมีนิยามว่า “โลกใบนี้แคบลง” กันเลยทีเดียว
ประวัติที่น่าสนใจของการกำเนิด iPhone
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 บริษัท Apple ผู้ที่อยู่ในแวดวงสินค้าไอทีได้รวบรวมทีมงานกว่า 1,000 คน นำโดย Tony Fadell วิศวกรฮาร์ดแวร์ Scott Forstall วิศวกรซอฟต์แวร์ และ Jony Ive เจ้าหน้าที่ฝ่ายออกแบบเพื่อทำงานในโปรเจกต์ลับสุดยอดชื่อ “Project Purple” โดยมี Steve Jobs ในฐานะ CEO ของ Apple เวลานั้นให้การสนับสนุนหลังจากมองเห็นว่า iPod เครื่องเล่นเพลงที่เคยโด่งดังยุคนั้นได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมากและน่าจะมีอุปกรณ์อื่นเพื่อรองรับความต้องการเพิ่มขึ้นของคนทั่วโลกในอนาคต
พร้อมทั้งยังสร้างความร่วมมือแบบลับ ๆ กับ Cingular Wireless (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น AT&T Mobility) มีทุนสำหรับพัฒนาโปรเจกต์นี้อยู่ที่ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยระยะเวลา 30 เดือน ทั้งนี้จากการเปิดเผยของ Jobs คำว่า “I” มาจาก iMac ซึ่งแปลความหมายได้หลายมิติไม่ว่าจะเป็น internet (อินเทอร์เน็ต), individual (ปัจเจกบุคคล), instruct (การสั่งสอน), inform (แจ้งให้ทราบ) และ inspire (แรงบันดาลใจ) จนในที่สุด iPhone รุ่นแรกก็ได้เปิดตัวโดย Jobs เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2007 ในงาน Macworld 2007 ณ ศูนย์ Moscone ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ
ยุคสมัยแห่งโลกดิจิทัลเต็มตัวได้เริ่มขึ้นแล้ว
ในการเปิดตัวอุปกรณ์นี้ iPhone ในมือของ Jobs เป็นเครื่องที่มีหน้าจอแสดงผลแบบ Multi-Touch ขนาดหน้าจอ 3.5 นิ้ว พร้อมปุ่มบนตัวเครื่องเพียงไม่กี่ปุ่ม ระบบปฏิบัติการ iPhone OS มาพร้อมอินเทอร์เฟซใช้งานง่ายสร้างความฮือฮาและน่าสนใจได้ชนิดคนทั้งงานต้องพูดถึง กระทั่งวันที่ 11 กรกฎาคม 2008 iPhone ได้มีการเปิดตัวรุ่นแรกอย่าง “iPhone 3G” ในงาน “Worldwide Developers Conference (WWDC) 2008” ซึ่งจัดโดย Apple เอง จากนั้นจึงขยายตลาดสู่ 22 ประเทศทั่วโลก ต่อด้วยการเพิ่มจำนวนสู่ 70 ประเทศ
จุดเด่นสำคัญในยุคนั้นของ iPhone 3G คือการนำเสนอรูปแบบเชื่อมต่อที่รวดเร็ว แถมราคาขายเริ่มต้นเพียงแค่ 199 USD (แต่ต้องทำสัญญาใช้งานกับ AT&T จำนวน 2 ปี) กลายเป็นกระแสที่เกิดขึ้นภายในเวลาม่านจนนำไปสู่โลกยุคดิจิทัลแบบใหม่ การสื่อสารเชื่อมต่อและทุกสิ่งรอบตัวกลายเป็นเรื่องที่ใครก็เข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาแบบเดิม ๆ ที่เคยทำอีกต่อไป
iPhone สินค้าทีป่ระสบความสำเร็จมากสุดในโลก
หากเอ่ยถึงแบรนด์สินค้าใดก็ตามไม่ใช่แค่เรื่องของความนิยมเพียงชั่วครั้งคราว แต่ต้องสามารถทำยอดขายและผลกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง iPhone กลายเป็นสินค้าที่หลายฝ่ายต่างยกให้ในฐานะ “ผลิตภัณฑ์ที่สามารถประสบความสำเร็จมากสุดในประวัติศาสตร์” เพราะอุปกรณ์สมาร์ตโฟนเล็ก ๆ เครื่องนี้ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เปลี่ยนโฉมโลกยุคดิจิทัลให้เกิดขึ้นภายในเวลาอันแสนรวดเร็ว ผู้คนไม่ต้องนั่งอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาข้อมูล ไม่ต้องพกกล้องถ่ายรูปให้หนักกระเป๋า และอีกสารพัดสิ่งที่สามารถทำได้
ยิ่งเมื่อย้อนกลับไปดูถึงผลประกอบการตั้งแต่การเปิดตัว iPhone 3G พวกเขาโกยรายได้เข้ากระเป๋าเกิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (มากกว่า 50 ล้านล้านบาท) ไม่แปลกหากบริษัท Apple จะก้าวขึ้นไปแตะสู่การเป็นบริษัทที่มีกำไรและมูลค่าสูงสุดตลอดกาล แม้ช่วงขวบปีแรกของการออกวางจำหน่ายอาจไม่ได้หวือหวาหรือยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคมากนัก
แต่พอก้าวเข้าสู่ปี 2008 ส่วนแบ่งทางการตลาดของเขามีเยอะขึ้น พร้อมเฉลี่ยจำนวนคนที่ใช้งานสมาร์ตโฟน iPhone มีอยู่ราว 9 ล้านคนทั่วโลก ยิ่งเมื่อช่วงปี 2010 กับ iPhone 4 นับว่าได้รับความนิยมและสร้างความสำเร็จเอาไว้สูงถึงขนาดพวกเขาทำส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 19% เลยทีเดียว แม้มีบางช่วงเวลาที่จะถูกตำหนิติเตียน แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นคือ iPhone ได้เปลี่ยนโลกใบใหม่ได้อย่างไร้ที่ติมาก
หลายคนไม่คาดคิดว่าชีวิตของพวกเขาจะสามารถพบเจอหน้าใครบางคนที่คิดถึงได้อีกครั้ง หรือแม้แต่การทำงาน การเรียนอันแสนสะดวก ซึ่งปัจจุบัน Apple ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสิ่งดีที่สุดสำหรับทุกคนบนโลก